จตุกกนิบาต: อินทริยวรรค ข้อที่ 159 - 160 และปฏิปทาวรรค ข้อที่ 161 - 168, 170
“ให้เราเข้าใจว่าตัวเราเป็นประเภทไหน จะได้ไปได้”
ภิกขุนีสูตรท่านพระอานนท์ชี้ให้เห็นว่ากายนี้อาศัยอาหาร ตัณหา มานะ เมถุนจึงเกิดขึ้น ถ้าละได้จะบรรลุธรรมขั้นสูง ในสุคตวินยสูตรกล่าวถึงสิ่งที่จะทำให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ได้ด้วยการรักษาเหตุ 4 ประการ คือ เล่าเรียนถูกต้องทั้งแม่บทและอรรถะ เป็นผู้ว่าว่าย พหูสูตรถ่ายทอดให้สืบต่อ เถระเป็นตัวอย่างที่ดี จบอินทริยวรรค
ปฏิปทาวรรค ปฏิปทา คือ วิธีการปฏิบัติ ในสังขิตตสูตร วิตถารสูตร และอสุภสูตร มีหัวข้อเดียวกันแต่อธิบายลึกต่างกัน พูดถึงปฏิปทา 4 แบบโดยการนำตัวแปร คือ การปฏิบัติลำบากหรือสบายมาจับคู่กับการบรรลุเร็วหรือช้า ทุกขาปฏิปทาในกระบวนการปฏิบัติจะเจอความทุกข์ เพราะมีราคะโทสะโมหะกล้าจึงยากในการเข้าสมาธิ ให้เห็นความทุกข์ความไม่น่ายินดีในราคะโทสะโมหะนั้น ส่วนสุขาปฏิปทาในกระบวนการจะเจอความสุข เพราะความที่มีราคะโทสะโมหะเบาบางจึงเข้าสมาธิได้ง่าย มีสุข เห็นความสงบนั้น การเข้าใจว่าตัวเราเป็นประเภทไหนจะช่วยให้พัฒนาไปได้ การบรรลุเร็วหรือช้าขึ้นกับความแก่กล้าของอินทรีย์ 5 และกำลังของเสกขพล เสกขพลจะเป็นฐานพัฒนาให้อินทรีย์แก่กล้าได้
ในปฐม และทุติยขมสูตร พูดถึงปฏิปทา 4 แบบ คือ ไม่อดทน อดทน ข่มใจ และระงับ
อุภยสูตรเปรียบเทียบความประณีต หรือหยาบจากข้อปฏิบัติ และรู้ได้เร็วช้า
โมคคัลลานสูตร และสารีปุตตสูตรกล่าวถึงปฏิปทาที่ท่านบรรลุ ท่านพระโมคคัลลานเป็นทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ท่านพระสารีบุตรเป็นสุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ท่านทั้งสองมีทั้งสมถะวิปัสสนา อยู่ที่ใช้อะไรนำ ดั่งการแบ่งตามในยุคนัทธสูตร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Create your
podcast in
minutes
It is Free