สภาล่มไป 5 ครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน หลังเริ่มต้นปี 2565
ท่ามกลางรอยร้าวจากขั้วภายในรัฐบาลเอง
ซึ่งปรากฏชัดมาตั้งแต่ศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปีที่แล้ว
คีย์แมนคนสำคัญคือ ผู้กองที่ชื่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดเกมเขย่าเก้าอี้นายพลที่ชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งๆ ที่ร่วมหัวจมท้ายอยู่ใต้รัง ‘พรรคพลังประชารัฐ’ มาด้วยกัน
อะไรก็เกิดขึ้นได้ จากจุดเริ่มต้นเดียวกัน แต่กลายเป็นวันนี้แยกทางเดินไปคนละทิศ เมื่อ ‘ผู้กอง’ ที่เขาบอกว่าตัวเองคือเส้นเลือดใหญ่ ถูกขับพ้นพรรค ขณะที่พี่ใหญ่อย่าง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ดูเหมือนจะเปิดทางให้ด้วย
ในขณะที่ในสภาวันนี้ พรรคฝ่ายค้านเขย่ารัฐบาล ด้วยปรากฏการณ์องค์ประชุมไม่ครบ
ทำ ‘สภาล่ม’ ตอกย้ำความไร้เสถียรภาพ ซ้ำๆ ถี่ๆ
ทั้งหมดนี้แน่นอนคือเกม หวังผล ยุบสภา
แต่ขณะเดียวกันฝ่ายค้านคือเพื่อไทยและก้าวไกล
ก็ปล่อยพลังงัดกันเองทั้งในสภาและนอกสภา
สภาผู้แทนราษฎรยังมีกฎหมายสำคัญให้รอพิจารณาอีกหลายฉบับ
เกมองค์ประชุมจะทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ สะดุดในสภาหรือไม่
เพราะหากโหวตไม่ผ่าน ตามธรรมเนียม นายกฯ ต้องรับผิดชอบ
สนามรบการเมืองวันนี้ นอกเหนือจากเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านแล้ว
ภายในรัฐบาล การประจัญหน้ากันระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ กับ พล.อ. ประวิตร ก็ดุเดือดไม่แพ้กัน
เช่นเดียวกับอาการขบเหลี่ยมของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ที่ช่วงชิงความได้เปรียบในสนามการเลือกตั้งครั้งหน้า
นี่คือความทับซ้อนของความขัดแย้งของการเมืองในวันนี้
ในศัตรูมีมิตร
และในมิตรก็มีศัตรูเช่นกัน
view more