เหตุอาฟเตอร์ช็อกทางการเมืองตามมาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐนาวาที่เรียกกันว่า ‘เรือแป๊ะ’ ซึ่งมีกัปตันชื่อ ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ได้ลอยแพลูกเรือ 2 คน คือ ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ที่เคยเป็นหัวหอกสำคัญ เหมือนว่าจะให้ลอยคอไปต่อเองท่ามกลางเกลียวคลื่นการเมืองทั้งศึกในและศึกนอกในเวลานี้
แน่นอนว่า ‘3 ป.’ คือ ประยุทธ์ ประวิตร และ อนุพงษ์ (ป๊อก) พี่น้องที่เหมือนร่วมท้องเดียวกัน คือกำลังหลักในการก่อร่างสร้างเรือลำนี้มา แต่ทว่าเวลานี้หลายคนกำลังสงสัย เมื่อเกมดีลล้มน้องรักจากเก้าอี้นายกฯ มาจากลูกน้องคนสำคัญในร่มเงาพี่ใหญ่
คำถามที่น่าสนใจก็คือ การปลด ‘ธรรมนัส-นฤมล’ ครั้งนี้ ใครได้-ใครเสีย
พล.อ. ประยุทธ์นั้นได้แสดงบทบาทผู้นำที่เด็ดขาด เหมือนจะบอกว่าใครมีอำนาจสูงสุดแท้จริง ในขณะเดียวกันก็เป็นการทำลาย ‘บารมี’ ความเป็นหัวหน้าพรรคของ พล.อ. ประวิตร
หากการปลดเลขาธิการพรรคโดยไม่บอกหัวหน้าพรรคเกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทยหรือประชาธิปัตย์ก็คงเป็นเรื่องราวใหญ่โต
แต่น้องคนที่ พล.อ. ประวิตร บอกว่า ‘เลี้ยงดู’ มาตั้งแต่ปี 2519 กลับมาทำเช่นนี้กับเขา
แม้ภาพล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาลจะออกมาหวานเจี๊ยบเพื่อสยบข่าวความแตกแยกของกลุ่ม 3 ป. แต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจของ พล.อ. ประวิตรคิดอย่างไร
การเมืองไทยเริ่มขยับเป็นเพลง ‘ลามะลิลา’ ที่ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ แต่เหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา
แต่ปรับเนื้อใหม่เป็น ‘ขึ้นต้นเป็นพี่น้อง 3 ป.’ แต่พอลงท้ายกลายเป็น ‘สามก๊ก’ ไปแล้วนี่นา
‘สามก๊ก’ ที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวของการชิงอำนาจ โดยไม่สนใจว่าเป็นพ่อ ลูก เพื่อน
หรือ ‘พี่-น้อง’
view more