เราไม่จําเป็นต้องรู้ทุกอย่างหรอก กรรมฐานสําหรับคนๆ หนึ่งไม่มากมายอะไร ทําให้ได้สักอย่างหนึ่ง แล้วถ้าจิตมันสนใจใคร่รู้ มันก็จะรู้อันอื่นเนื่องกันไปหมด เชื่อมโยงกันไปหมด ในสติปัฏฐาน 4 ถ้าเราแจ้งอันใดอันหนึ่ง เราก็จะแจ้งเกี่ยวเนื่องกันไปหมด เหมือนโต๊ะตัวนี้มี 4 มุม เราจับมุมเดียวลากขึ้นมา โต๊ะมันก็ขึ้นมาได้ทั้งหมด หรือกระทั่งสมถะอย่างกสิณ 10 เราเล่นกสิณ สมมติเล่นกสิณไฟได้อันหนึ่ง ไปเล่นกสิณอื่นก็เล่นไม่ยากแล้ว เพราะฉะนั้นกรรมฐานเราไม่ต้องเรียนทีเดียวเยอะๆ ถนัดอันไหนเอาอันนั้นล่ะ เอาที่เราถนัดเอาอันเดียวก็พอแล้ว ถนัดอานาปานสติก็ใช้อานาปานสติ ถนัดกายคตาสติก็ใช้ หรือถ้าคิดถึงทำทานบ่อย ทำแล้วมีความสุข รักษาศีลแล้วมีความสุข ก็คิดถึงไป จิตมีสมาธิพอจิตมีสมาธิก็ค่อยมาน้อมจิตออกไปดูไตรลักษณ์ ไปดูรูปธรรมนามธรรมแสดงไตรลักษณ์ อันนี้จะแยกกันระหว่างการทําสมถะทําเสร็จ แล้วก็มาเจริญวิปัสสนา การปฏิบัติมันสารพัดที่จะพลิกแพลง ลีลาอาการการปฏิบัติของคนแต่ละคนแตกต่างกัน ทางใครทางมัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 21 กรกฎาคม 2567
view more