ธัญวัฒน์ อิพภูดม มีชื่ออยู่ในหลายวงการ ในฐานะนักข่าวก็ทำงานคอนเทนต์มาหลายที่ กระทั่งปัจจุบันที่ทำอยู่ The MATTER ในตำแหน่งบรรณาธิการข่าว ในฐานะนักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านไอดอล เขาก็มีหนังสือขายดีอย่าง B Side ของสำนักพิมพ์แซลมอน ที่เล่าเรื่องอีกด้านของ BNK48 และปีนี้ยังเพิ่มงานโฮสต์พอดแคสต์ Untitled Case และ Why It MATTER เข้ามาอีกแต่ปีนี้เป็นปีที่เขาต้องปล่อยมือจากหลายสิ่งหลายอย่าง ด้วยหน้าที่ที่เปลี่ยนไป และไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนตาม มีอะไรที่เขาอยากระบายให้เราฟังบ้าง ลองไปฟังสิ่งที่ปี 2019 สอนให้เขาได้รู้กัน ค้นพบ ASMRย่อมาจาก Autonomous sensory meridian response มันคือคลิปหรือเสียงที่ทำให้เพลิดเพลิน บางคนชอบฟังคนกินนั่นนี่ บางคนชอบดูคนประกอบของจิ๋วๆ เป็นต้น ปีนี้ผมไปเจอแชนเนลนึง เป็นของคนเกาหลี ชื่อว่า Latte ASMR เป็นเบอร์ต้นๆ ของจักรวาล ASMR เลยสิ่งที่เพิ่งรู้คือมันไม่ได้มีแค่กิน หรือแคะหู แต่คุณลาเต้เนี่ยเขาจะ Roleplay บางวันก็จะเป็นหมอรักษาสิว บางวันเป็นแม่มด บางวันเป็นช่างสัก บางคลิปก็เป็นคาเฟ่ในฤดูร้อน ก็จะมีเสียงต้มกาแฟให้ อะไรต่างๆ นานาสิ่งที่ผมเข้าสู่วงการนี้คือมันทำให้ผมหลับดีขึ้นกว่าเดิม พลาดอะไรไปบ้างก็ได้เมื่อก่อนเราเป็นอาการที่เรียกว่า FOMO (Fear of Missing Out) พอเห็นเพื่อนไปคาเฟ่ ไปเที่ยว เราก็รู้สึกอยากไปบ้างแต่พอโจทย์ในปีนี้คืองานมันหนักมาก เราเลยต้องการหาเวลาพักผ่อนให้คุ้มค่า มันเลยมีความรู้สึกขึ้นมาว่าการอยู่เฉยๆ คือการพักผ่อนที่ไม่คุ้มค่ารึเปล่าวะ แต่ปีนี้เราพลาดอะไรไปเยอะมากเลย อย่างเช่นคอนเสิร์ตต่างๆ ที่เราอยากไป เพราะต้องการพักผ่อนมากขึ้นชีวิตทำงานมันคือการหาบาลานซ์น่ะแหละ เราต้องหาบาลานซ์ให้เจอ แต่พอทำงานออนไลน์ มันก็แทบจะต้องเรียลไทม์ ทำให้ในหนึ่งวันเนี่ย พลังงานเราหายไปกับสิ่งเหล่านี้เยอะมากเลย เราเลยต้องหา work-life balnce บ้างการทำงานออนไลน์มันทำต่อเนื่อง 7 วันเลยอะ แถมต้องตื่นตัวตลอดเวลาเลยว่าข่าวไหนควรเล่น ต้องตามข่าวไหม มันทำให้เรากลัวที่จะปล่อย แต่ตอนนี้ด้วยความเหนื่อยมันทำให้เราปล่อยได้ดีขึ้น ทุกวันนี้ตัวเลือกแรกของวันเสาร์อาทิตย์คืออยู่บ้าน อยู่เฉยๆ ได้ ดูหนังที่บ้าน เล่นเกมที่บ้าน ใช้เวลาอยู่บ้านโง่ๆ กับตัวเองบ้าง เราต้องปล่อยให้น้องทำงานบ้างเราเป็นคน say yes มาหลายปีมากๆ มันทำให้เราเหนื่อยเกินไป เราพบว่าการรับสิ่งต่างๆ มาทำเองมากๆ เนี่ย มันทำร้ายน้องๆ ในทีมเหมือนกันนะ บางงานที่เราคิดว่าน้องทำแล้วจะเหนื่อย เรากลับควรปล่อยให้น้องทำบ้าง เพราะบางทีน้องมันอยากทำ แต่เรากลัวไปเองว่าน้องจะทำไม่ได้เราจะค่อยๆ เรียนรู้ได้เองว่าน้องเราเก่งว่ะ แล้วทำไมเราต้องไปริบงานไม่ให้น้องๆ ทำด้วยวะ ผมอยากเป็นคนเบื้องหลังที่คอยผลักดันงานให้มันเวิร์ก ถ้าเปรียบเป็นลิเวอร์พูล มันจะปล่อยให้กองหน้าสามคนซาลาห์ มาเน่ ฟีร์มิโน่ ทำงานประสานเกมบุกกันไป ซึ่งเราจะรับหน้าที่กองกลางคอยเก็บกวาด ขึ้นเกม ตัดเกม เป็นฟาบินโญ่ เป็นจอร์แดน เฮนเดอร์สัน อะไรกันไป เราอยากเป็นตำแหน่งแบบนี้มากกว่าหน้าที่หลักเราคือซัพพอร์ตให้น้องมันโต ผมว่าการให้น้องเติบโตด้วยตัวเอง ถ้ามองในแง่องค์กรแล้ว สมมติว่าเราไม่อยู่แล้ว ไม่มีเราแล้ว น้องก็ทำงานกันได้อะ มันคือการปล่อยวางล่ะมั้ง เราอยากเห็นน้องเก่ง ที่ไม่ใช่เก่งจากการชี้นำของเราด้วยซ้ำ#SalmonPodcast #AnotherYearOld #ธัญวัฒน์อิพภูดม
Learn more about your ad choices. Visit megaphone.fm/adchoices
view more