23 ก.ย. 64 - ปลอดภัยเมื่อใจมีเครื่องรักษา : ช่วงนี้ฝนตกชุก แล้วก็ตกได้ทุกเวลา เช้าสายบ่ายเย็นค่ำ หรือว่ากลางดึก หรือบางครั้งฝนตกขณะที่เรากำลังทำวัตร สวดมนต์หรือว่ากำลังฟังธรรมด้วยซ้ำ เวลาฝนตก ยิ่งตกหนักเท่าไร เป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาสังเกตจิตใจของเรา ใจเรากระเพื่อมไหม มีความหงุดหงิด มีความกังวลไหม
หงุดหงิดที่เสียงฝนมากระทบหลังคา มันดังกลบเสียงสวดมนต์บ้างล่ะ หรือว่ามารบกวนการฟังธรรมคำบรรยายบ้างล่ะ หรือบางทีก็กังวลว่าจะสาดเข้ากุฏิที่พักของเราหรือไม่ ลองสังเกตดูใจของเรา มันมีความทุกข์เกิดขึ้นหรือไม่ในขณะที่กำลังได้ยินเสียงฝนตก บ่อยครั้งแม้ตัวเราไม่เปียกฝนแต่ใจเราเปียกแล้ว ใจที่เปียกฝนเพราะว่าเกิดความวิตกกังวล เกิดความหงุดหงิด เพราะว่าฝนที่เทลงมา
ใจที่เปียก ใจที่หวั่นไหวกระเพื่อมเพราะฝนเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะเราไม่มีสติรู้เท่าทันใช่ไหม สติเป็นเครื่องรักษาใจ เวลาฝนตก เรานั่งอยู่ในที่หอไตร หรือที่ศาลาหน้าก็แล้วแต่ ฝนตกยังไง กระหน่ำลงมาแค่ไหนแต่ตัวเราไม่เปียกเพราะอะไร เพราะมีหลังคากันฝน หลังคามันทำให้ แม้รอบศาลาจะเปียกชุ่มหรือบางทีเจ่อนอง แต่ตัวเรากลับแห้ง ฉันใดก็ฉันนั้น ใจเราไม่เป็นอะไร ใจเราเป็นปกติ แม้ว่าฝนจะเทลงมาแค่ไหนเพราะอะไร เพราะเรามีสติเป็นเครื่องรักษา