บรรยายเมื่อ 19-02-2565
ชีวิตการปฏิบัติธรรมของเราแต่ละคน...เป็นจริงมั้ย?
หรือเป็นแค่...ชีวิตที่มีความทะยานอยาก ที่จะได้รับผัสสะที่น่าพอใจในเส้นทางของการปฏิบัติธรรม?
คำถามที่ผมถาม เป็นสิ่งที่พวกเราต้องพิจารณาให้ชัดเจน
เมื่อเราเลือกจะเป็นบางอย่าง และไม่เอาอีกอย่างหนึ่ง นั่นไม่จริง นั่นเป็นแค่ชีวิตที่ต้องการได้รับผัสสะที่น่าพอใจแค่นั้น
เมื่อเราเชื่อว่าสิ่งที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่น่าพอใจ เราจะเอา และถ้าผัสสะที่ไม่น่าพอใจ เช่นกิเลสเกิดขึ้น เราบอกว่าการปฏิบัติของเราย่ำแย่ ไม่ดี
ผมอยากให้พวกเราเห็นโครงสร้างทั้งหมดที่ผมพยายามจะถ่ายทอดและสื่อสาร ว่าชีวิตเรานั้นมันไม่จริงยังไง ชีวิตการปฏิบัติธรรมของเรานั้นมันจอมปลอมยังไง
เราต้องค้นเข้าไปในใจจริงๆ ค้นไปลึกที่สุดในใจจริงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่...ในสิ่งที่เราทำ
#ไม่อย่างนั้นชีวิตเราจะอยู่ภายใต้มายาภาพที่ขาวสะอาดสดใส และปิดบังเราอยู่อย่างแนบเนียน
ชีวิตการปฏิบัติธรรมของเราเป็นจริงไหม?
หรือเป็นแค่ชีวิตที่ต้องการความปลอดภัย?
ใช่ไหม...ที่เราพยายามแสวงหาทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ วิธีการปฏิบัติต่างๆ ความรู้ต่างๆ การประเมินผลต่างๆ ทั้งหมดแท้จริงแล้ว #เราแค่ต้องการความปลอดภัย
เราพยายามเป็นคนดีเพราะเรากลัวตกนรก เราสนใจในการทำบุญเพราะเราอยากขึ้นสวรรค์ และเราอยากเป็นพระโสดาบันเพราะเราไม่อยากตกอบาย
นี่คือทั้งหมดที่เราเป็นใช่ไหม?
คำถามผมคือ ชีวิตมันจริงตรงไหน?
แล้วชีวิตจริงๆ นั้นเป็นยังไง?
ชีวิตที่เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงเป็นยังไง?
คือชีวิตที่เผชิญกับความจริงในขณะนี้ โดยที่ไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย นั่นคืออริยสัจ 4 คือ #ชีวิตแห่งอริยสัจ
เราต้องเผชิญกับขณะนี้โดยที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่มีความคิดที่จะป้องกัน หรือที่จะต้องเผชิญกับมันด้วยกิริยายังไงดี หรือมันควรจะเป็นยังไงดี
และนั่นคือความจริง ความจริงอยู่ที่นี่แล้ว อยู่ที่นี่เลย เราทุกคนมีความจริงอยู่ตลอดเวลา
แต่ความจริงมันถูกพาให้ไปไกลเหลือเกิน บรรยากาศทั้งหมดมันบอกเราแบบนั้นว่าเราจะต้องไปถึงความจริง
ความจริงไม่ต้องไปถึง มันอยู่ที่นี่เลย
เมื่อกิเลสเกิดขึ้น เรามีวิธีการทันทีว่าจะทำยังไงกับมัน…ใช่มั้ย?
บางคนจะทำกรรมฐาน เช่น อสุภกรรมฐาน บางคนมีวิธีอยู่แล้วว่า คอยรู้มัน ดูมัน ไม่เข้าไปเป็นกับมัน
เรามีวิธีอย่างสมบูรณ์แบบซักอย่างหนึ่งที่เราจะทำต่อความจริงในขณะนี้ เรามีวิธีล่วงหน้า...เข้าใจไหม?
แต่การเผชิญกับความจริงของชีวิต บางครั้งเราอาจจะเห็นมันโดยที่ไม่เข้าไปเป็น
เรารับรู้ทั้งหมดนั้นว่า เห็นแล้วไม่เป็น...มันเป็นยังไง มันเกิดขึ้นได้ยังไง
บางครั้งมันเกิดขึ้น เรารู้ แล้วเราก็เป็นไปกับมันด้วย...แล้วมันเป็นยังไง ทั้งหมดนั้นเป็นยังไง เกิดความดิ้นรนยังไงต่อ
เห็นกระบวนการของการต่อสู้ การหนี การคิดวิธี...เห็นทั้งหมดนั้น
เข้าใจกิเลสตัวนั้น เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น...เข้าใจให้มันแจ่มแจ้ง
มีความอยากตามกิเลสนั้น...ทำไม? ค้นลงไป มันต้องการอะไร? เราจะได้อะไร? แล้วมันเป็นยังไง?
ความอยากนั้นถูกสร้างความสืบเนื่องได้ยังไง? มันมีอะไรเกิดขึ้นต่อจาก...เมื่อความอยากเกิดขึ้น มันถึงสร้างความสืบเนื่องได้?
#เข้าใจทั้งหมดนี้
#ไม่ใช่หนีมัน ไม่ใช่ทำให้มันไม่เกิดขึ้น ไม่ใช่กลบเกลื่อนมัน
เข้าใจที่ผมพยายามจะบอกไหมว่า นักปฏิบัติธรรมพยายามฝึก…#ฝึกอาวุธสักอย่างหนึ่งขึ้นมาเพื่อที่จะต่อสู้กับกิเลส แม้ว่าจะเป็นการเห็นมันก็ตาม แม้จะเป็นการแค่รู้แค่เห็นก็ตาม
แต่หัวใจของเราคือการสู้กับมัน เราต้องเข้าใจทั้งหมดที่ผมพูดนี้
เพราะเพียงแค่หัวใจเราผิด ทุกอย่างจะผิดหมด
ชีวิตที่เป็นการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง ไม่ใช่การฝึกอาวุธอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง เพื่อจะต่อกรกับกิเลส
แต่คือ #เข้าใจความเป็นไปทั้งหมดของมัน เข้าใจที่มาที่ไปของมัน เข้าใจกระบวนการของมัน
และการที่ไม่มีใครซักคนที่มีหัวใจจะต่อกรกับมัน นั่นคือ #หัวใจของสัมมาทิฏฐิ
และอย่างที่ผมบอก เมื่อสัมมาทิฏฐิได้เกิดขึ้นแล้ว สัมมาที่เหลือทุกอย่างจะเกิดขึ้นตามกันมาอย่างที่หลีกหนีไม่ได้
สิ่งที่เราอยากได้ที่สุดคือ สัมมาสติและสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะและสัมมาวิมุตติ จะเกิดขึ้น #มันจะเกิดขึ้นแปรผันไปตามความเข้าใจอันแจ่มแจ้งในอริยสัจ 4 นี้ มันจะแปรผันไปตามความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในชีวิตนี้
ไม่ใช่การพยายามทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น ทำสิ่งที่ไม่ดีให้หายไปหรือไม่เกิดขึ้น เหล่านั้นไม่ใช่ความเข้าใจในชีวิตนี้
เรานึกออกมั้ย เราพยายามทำคุณสมบัติที่ดีที่เราเชื่อ...ให้มันเกิดขึ้นในจิตใจของเรา และทำลายหรือไม่อยากให้สิ่งที่เราเชื่อว่าไม่ดีนั้นเกิดขึ้น เราใช้ชีวิตอยู่กับเรื่องของความเชื่อใน 2 เรื่องนี้แค่นั้น
แล้วอริยสัจ 4 อยู่ที่ไหน?
ความเข้าใจในชีวิตนี้อยู่ที่ไหน?
เมื่อความเข้าใจในชีวิตนี้แจ่มแจ้งขึ้นเป็นลำดับ ชีวิตก็จะเป็นมรรคมากขึ้นตามลำดับ
มันคือเรื่องๆเดียวกันทั้งหมด ทั้งอริยสัจ 4, ทั้งมรรค 8, ทางสายกลาง มันคือเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ มันแค่เปลี่ยนมุมพูดเฉยๆ เปลี่ยนมุมขยายความเฉยๆ แต่มันมาจากที่นั่น #มันมาจากอริยสัจ4
อริยสัจ 4 คือความจริงอันประเสริฐ ที่ไม่ต้องแสวงหา...ไม่ต้องแสวงหาจากใคร มันอยู่ในตัวเราแล้วทุกคน มันคือชีวิตของเรา
ของประเสริฐที่สุดอยู่ที่ตัวเรา ไม่ต้องไปหาสิ่งประเสริฐที่อื่น เราวิ่งหาบูชาสิ่งประเสริฐที่อื่น ยกเว้นตัวเอง
#Camouflage
19-02-2565
Create your
podcast in
minutes
It is Free