บทความนี้ไม่เป็นกลาง ผู้อ่านโปรดอ่านด้วยความระมัดระวังและตั้งแง่ เหตุการณ์ครบรอบ 18 ปี โศกนาฏกรรมกรือเซะ ผู้เขียนสังวรตัวเองว่ากำลังจะเขียนบทความในฐานะ “คนนอก” ดังนั้นจึงขอสงวนวิธีการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะ “คิดแทน” “พูดแทน” เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้เสียชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ เพราะการตีความของผู้เขียนอาจผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเนื่องจากข้อจำกัดของผู้เขียนเอง[2] อย่างไรก็ดี หากมีบทสัมภาษณ์โดยตรงจากตัวความ ผู้เขียนจะหยิบยกนำมาเสนอเพื่อให้เข้าใจถึงนัยความสำคัญของวันที่ 28 เมษายนฯ มายิ่งขึ้น
หลังจากทบทวนวรรณกรรมเบื้องต้นเกี่ยวกับ “กรือเซะ” พบว่า วรรณกรรมหลักๆ ที่ถูกนำเสนอออกมาอาจแบ่งได้ 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) ประวัติศาสตร์บาดแผลเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 2) ประวัติศาสตร์ความเป็นมาและความเชื่อที่เกาะเกี่ยวกับมัสยิดกรือเซะ และ 3) กรือเซะกับการกลายมาเป็นพื้นที่ทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรม
ด้วยพันธะทางปฏิทินการครบรอบวันที่ 28 เมษายนฯ ผู้เขียนจึงเลือกที่จะให้ความสำคัญกับ 2 เรื่องหลักๆ กล่าวคือ เรื่องแรก เปิดบาดแผลทางประวัติศาสตร์บางส่วนขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่าวันที่ 28 เมษายนฯ มีความสำคัญอย่างไร และ เรื่องที่สอง จินตนาการถึงการแปรเปลี่ยนจากศาสนสถานสู่การกลายมาเป็นพื้นที่ทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรม ผู้เขียนหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่างานเขียนฉบับนี้จะเป็นข้อต่อเล็กๆ ที่ช่วยต่อเติมให้เห็น “ชีวิต” ของผู้คนที่สัมพันธ์กับ “การมีชีวิต” ของกรือเซะควบคู่กันผ่านบทเรียนทางประวัติศาสตร์
อ่านทั้งหมดได้ที่: https://prachatai.com/journal/2022/05/98488
ประชาไท #อ่านให้ฟัง หยิบบทความที่น่าสนใจมาอ่านให้คุณฟัง แบบไม่ต้องอ่าน
Create your
podcast in
minutes
It is Free