26 ต.ค. 65 - เตรียมใจให้พร้อมตาย : ที่เรากลัวตายเพราะมันยังมีความรู้สึกว่ากูจะตายๆ มันมีความสำคัญหมั่นหมายว่ากูที่กำลังจะตาย รู้สึกทรมานมากถ้ามีความสำคัญมั่นหมายแบบนั้น แต่ถ้าหากว่าเจริญสติมีปัญญา จนกระทั่งมันละความหลงผิดว่ามีกู มันก็มีแต่ความตาย แต่ไม่มีผู้ตาย และสุดท้ายแม้แต่ความตายก็ไม่มีด้วย มีแต่การเปลี่ยนสภาพ
ความตายจะว่าไปก็เป็นสมมติอย่างหนึ่ง สมมติเวลาชีวิตเราสิ้นสุด เราก็เรียกว่านั่นแหละคือความตาย แต่จริงๆ ชีวิตมันไม่ได้สิ้นสุด มันยังไปต่อ รูปก็ยังคืนสู่ดิน น้ำ ไฟ ลม น้ำก็ยังมีความสืบเนื่องต่อไป มันไม่มีอะไรที่สิ้นสุด มันยังมีความสืบเนื่องต่อไปเรื่อยๆ
แม่น้ำเจ้าพระยา เราก็เรียนมาว่ามันสิ้นสุดที่อ่าวไทย แต่จริงๆ แล้ว ที่สิ้นสุดนี่คือชื่อเท่านั้นแหละ เพราะว่าตัวน้ำ มันก็ไม่ได้จบตรงที่อ่าวไทย น้ำก็ยังไหลต่อ เพียงแต่ไหลจากแม่น้ำสู่ทะเล มันยังมีความสืบเนื่องของน้ำ สิ่งที่สิ้นสุดก็คือชื่อนั่นแหละ แต่ว่าน้ำไม่ได้สิ้นสุด มันก็ยังไปต่อ
เพราะฉะนั้นเวลาระลึกถึงความตาย เราหมายถึงความสิ้นสุดของชีวิต ที่จริงมันไม่ได้สิ้นสุดหรอก มันไปต่อ มีความสืบเนื่อง ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ มันก็ไม่มีแม้กระทั่งความตาย
หรืออย่างที่ท่านติชนัทฮันห์บอกว่าเมฆไม่เคยตาย เพราะเมฆแค่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นฝน ฝนตกลงมากลายเป็นแม่น้ำลำคลอง เสร็จแล้วมันก็อาจจะเหือดแห้งไป แต่มันไม่ได้ตาย มันแค่เปลี่ยนสภาพ ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว เพราะมันไม่มีแม้กระทั่งความตาย และผู้ตาย
พวกนี้ก็ต้องฝึกเอานะ ต้องฝึกฝน จนกระทั่งสติแก่กล้า ปัญญาแทงทะลุถึงสัจธรรม จึงจะเรียกว่าเมื่อถึงเวลาก็พร้อมตายหรือเต็มใจตาย พวกเราถ้าฝึกมาถึงตรงนี้ได้ คือเต็มใจตาย มันไม่มีความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นเลย"