Geek Book EP15 : CHIP WAR #2 จากการคัดลอกสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของญี่ปุ่น
ในช่วงปี 1980 อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคได้กลายเป็นสินค้าเฉพาะของญี่ปุ่น โดย Sony เป็นผู้นำในการเปิดตัวสินค้าอุปโภคบริโภคใหม่ๆ และคว้าส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งในอเมริกา ในตอนแรก บริษัทญี่ปุ่นประสบความสำเร็จโดยเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งในสหรัฐฯ โดยผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้นและราคาที่ถูกลง ชาวญี่ปุ่นบางคนใช้ความคิดที่ว่าพวกเขาเก่งในการนำไปปฏิบัติ ในขณะที่อเมริกาเก่งกว่าในด้านนวัตกรรม
สหรัฐอเมริกาได้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงหลังสงครามของญี่ปุ่นให้กลายเป็นพนักงานขายทรานซิสเตอร์ หน่วยงานด้านอาชีพของสหรัฐฯ ได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์ให้กับนักฟิสิกส์ชาวญี่ปุ่น ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายในวอชิงตันรับรองว่าบริษัทญี่ปุ่นอย่าง Sony สามารถขายในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย จุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนประเทศญี่ปุ่นให้เป็นประเทศแห่งนายทุนประชาธิปไตยได้ทำงาน ชาวอเมริกันบางคนถามว่ามันทำงานได้ดีเกินไปหรือไม่ กลยุทธ์การเพิ่มศักยภาพธุรกิจของญี่ปุ่นดูเหมือนจะบ่อนทำลายความได้เปรียบทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของอเมริกาในท้ายที่สุด
เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังใจในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
https://www.tharadhol.com/become-a-supporter/
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
https://lin.ee/aMEkyNA
——————————————–
ไม่พลาดข่าวสารผ่านทาง Email จาก ด.ดล Blog :
https://www.getrevue.co/profile/tharadhol
——————————————–
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
https://www.facebook.com/groups/geek.forever.club/
=========================
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
Fanpage : www.facebook.com/tharadhol.blog
Blockdit : www.blockdit.com/tharadhol.blog
Twitter : www.twitter.com/tharadhol
Instragram : instragram.com/tharadhol
TikTok : tiktok.com/@geek.forever
Youtube : www.youtube.com/c/mrtharadhol
Linkedin : www.linkedin.com/in/tharadhol
Website : www.tharadhol.com
Create your
podcast in
minutes
It is Free