10 ธ.ค. 65 - อย่าหลงเชื่อเสียงยั่วยุในหัว : แต่หากว่าเรามีสติ ความหลงหรือว่าการถูกครอบงำด้วยอารมณ์ มันก็เกิดขึ้นได้ยาก แล้วพอเรามีสติมีความรู้สึกตัว มันก็ไม่มีทางที่ตัวร้ายหรือว่าเสียงยุเสียงแหย่มันจะมารบกวนจิตใจเราได้ หรือถึงแม้ว่าเราจะไม่มีสติทัน อารมณ์จึงเกิดขึ้น เกิดความยินดีร้าย เกิดความพอใจไม่พอใจ เกิดความหงุดหงิดติดใจขัดใจ แต่ก็ยังไม่สายที่เราจะมีสติ มีสติเห็นอารมณ์ มีสติรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น หรือพอเผลอไปแล้ว หลงไปแล้ว มันมีเสียงยุเสียงแหย่ตามมา เรามีสติก็ไม่ปล่อยใจให้คล้อยตามเสียงยุเสียงแหย่ มันจะหว่านล้อมอย่างไร ใจเราก็ไม่หลงเชื่อ
มันจะยุให้เราลองเล่นยา เราก็ไม่ทำ มันจะยุให้เราทุจริต เราก็ไม่ทำ มันจะยุให้เราโดดลงหน้าผา เราก็ไม่สนใจ มันจะยุให้ไปดูคลิปโป๊ หรือว่าไปมีกิ๊ก มันก็เป็นสักแต่ว่าเสียงยุที่ไม่มีความหมายต่อจิตใจของเรา อันนี้เพราะมีสติรู้ทัน จนแม้กระทั่งมันมีเสียงด่า เสียงจ้วงจาบพระรัตนตรัย ด่าครูบาอาจารย์ เสียงตำหนิต่อว่าติเตียนพ่อแม่ เราก็เห็นมันรู้ทันมัน แต่ก่อนก็คิดแต่จะไปต่อสู้เอาชนะมัน กดข่มผลักไสมัน เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี
แต่พอเรามีสติ เรารู้จักวิธีที่จะดูมันเฉยๆ อย่างที่ครูบาอาจารย์เรียกว่ารู้ซื่อๆ มันช่วยได้เยอะนะ คนที่เป็นทุกข์มากเพราะมันมีเสียงด่าพ่อแม่ ตำหนิติเตียนครูบาอาจารย์ หรือจ้วงจาบพระรัตนตรัย ไม่ต้องทำอะไรกับมัน ก็แค่รับรู้แล้วก็ไม่สนใจมัน มันจะโวยมันจะวาย มันจะบ่นอย่างไร มันจะพูดยังไงเราก็ไม่สนใจ ที่ทำอย่างนั้นได้เพราะมีสติ ถ้าไม่มีสติ มันอดไม่ได้ที่จะไปสู้รบตบมือเสียงในหัวของเหล่านั้น
และหลายคนก็พบว่าพอไม่สนใจมัน แค่รับรู้แต่ไม่สนใจ สุดท้ายเสียงนั้นก็ค่อยเบาลงไปๆ แล้วก็หายไปในที่สุด แต่ก่อนที่มันจะเบาลงไป มันก็จะหาทางยั่วยุ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เราหันไปสู้รบตบมือกับมัน แต่พอเราไม่สนใจเพราะเรามีสติ ในที่สุดมันก็ค่อยจางหายไป