27 ธ.ค. 65 - ชักชวนใจให้ใฝ่ประพฤติธรรม : มีนักปราชญ์กรีกคนหนึ่ง เขาพูดว่า ถ้าเราโกรธใครก็ตาม นั่นแปลว่าเรากำลังปล่อยให้เขาเป็นเจ้านายเรา เพราะว่าเรากำลังยอมให้เขามามีอิทธิพลรบกวนจิตใจของเรา คนที่เป็นอิสระ คนที่รักอิสระ คนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ย่อมไม่ปล่อยให้ความโกรธ ความเกลียด มาครอบครองใจ
พอเห็นความอิสระหรืออิสรภาพในความหมายนี้ มันก็ทำให้เห็นคุณค่าของการปฏิบัติธรรม เห็นคุณค่าของการเจริญสติ เพราะการเจริญสติช่วยทำให้สิ่งเร้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งยั่วยุหรือสิ่งเย้ายวนมามีอิทธิพลต่อจิตใจของเราได้ยาก เวลาเจอสิ่งเสพที่ให้ความเอร็ดอร่อย เราก็ไม่ปล่อยใจให้เป็นทาสของมัน ไม่หลงติดในสิ่งนั้น อันนี้ก็เรียกว่าเป็นอิสระแบบหนึ่ง หรือเวลามีอะไรมายั่วยุ แทนที่จะโกรธ ใจเรากลับสงบได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอิสระที่คนเราควรจะมี
แต่ว่าคนจำนวนมากไม่ค่อยจะตระหนักเท่าไหร่ อิสระของเขากลับหมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจ แต่ว่าการทำอย่างนั้นมันก็กลายเป็นการทำตามอำนาจของกิเลส หรือทำตามแรงผลักดันชักจูงของสิ่งภายนอก อาจจะเป็นวัตถุสิ่งเสพหรืออาจจะเป็นคนก็ได้ อย่างเช่นเวลาโกรธใครหรือเวลาเกลียดใคร คนก็ไม่ตระหนักว่า เรากำลังปล่อยให้เขามามีอำนาจเหนือจิตใจของเรา เวลาทำอะไรก็นึกถึงเขา แม้จะนึกด้วยความโกรธ ด้วยความเกลียด แต่ก็ทำให้เราไม่มีความสงบในจิตใจ
ถ้าเกิดคนตระหนักว่าการปฏิบัติธรรมจะช่วยทำให้เราไม่ยอมปล่อยให้อารมณ์พวกนี้เข้ามาครอบงำใจ ซึ่งก็หมายถึงว่าไม่ปล่อยให้ใครมามีอำนาจเหนือเรา จนนอนไม่หลับ จนความดันขึ้น อิสรภาพที่แท้จริงคืออันนี้ และการเจริญสติจะทำให้เราเข้าถึงอิสรภาพอย่างนี้ได้ โดยเฉพาะถ้าเจริญสติจนเกิดปัญญา ชนิดที่ว่าไม่มีความยึดติดถือมั่นในสิ่งใด ไม่ว่าอะไรก็ไม่ทำให้เราทุกข์ได้ ในทางตรงข้ามเรากลับรู้จักใช้มันให้เกิดประโยชน์ด้วยปัญญา