29 มี.ค. 66 - สิ่งที่พ่วงมากับความสุข : เมื่อเราฝึกปล่อยฝึกวางได้ มันก็ทำให้เรามีความพร้อมในการที่จะรับมือกับความสูญเสียสิ่งที่รัก หรือของรักของหวง เวลาสิ่งเหล่านั้นอยู่กับเรา เราก็มีความสุข แต่เราไม่เพลิดเพลินหลงใหล แต่พอสิ่งเหล่านั้นสูญสลายหายไป เราก็ไม่ทุกข์ อันนี้เรียกว่ามีความสุขได้โดยไม่ทุกข์ เหมือนกับกินปลา แต่ก้างมันไม่ตำคอ
แต่ทั้งหมดนี้มันจะต้องใส่ใจในเวลาที่เรามีความสุข ไม่ว่าสุขเพราะสุขภาพดี สุขเพราะมีงานมีการ สุขเพราะมีคนรักแวดล้อม ในขณะที่เรามีความสุขก็อย่าเพลินกับมันจนลืมฝึกตน มันเป็นโอกาสสำหรับการฝึกตน ฝึกจิตฝึกใจให้รู้จักปล่อยรู้จักวาง เริ่มต้นจากการที่หมั่นพิจารณา “มันไม่เที่ยงนะ มันไม่แน่นอน สิ่งที่มีอยู่วันนี้มันก็จะต้องสูญหายไป” อย่าไปรำคาญ อย่าไปมองข้ามว่ามันไม่สำคัญ ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ฝึกไปสม่ำเสมอ ถึงเวลาเจอความผันผวนแปรปรวน เราก็จะรับมือกับมันได้ เราก็จะไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อย
แต่คนจำนวนมากพอมีความสุข ก็มักจะเพลิดเพลินหลงใหลในความสุข แล้วก็ไม่คิดที่จะฝึกตน บางทีครูบาอาจารย์ก็พูดก็สอน แต่ไม่อยากจะคิด เพราะฉันมีความสุขอยู่แล้ว คนเวลามีความสุขมันไม่ค่อยสนใจธรรมะ มาสนใจธรรมะก็ตอนที่มีความทุกข์แล้ว แต่ถึงตอนนั้นก็อาจจะสายไป เพราะความทุกข์มันรุมกระหน่ำซ้ำเติมจนกระทั่งโงหัวไม่ขึ้น นึกถึงธรรมะข้อไหนมันก็เอามาใช้ไม่ได้ เพราะใจมันไม่ไป อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้คนจำนวนมาก อันนี้เพราะประมาทมัวเมาในความสุข
ฉะนั้น ตระหนักอยู่เสมอ เตือนใจอยู่เสมอว่า ความสุขที่เรามีเนี่ยมันมีความทุกข์พ่วงมาด้วยเสมอ มันเป็นแพ็กเกจเดียวกัน เตือนใจตัวเองอยู่เสมอ มันจะได้ไม่หลงเพลินในความสุขมาก