20 ม.ค. 67 - อยู่ในโลกอย่าทิ้งธรรม : ถ้ามีธรรมะ มันจะช่วยรักษาใจของคนที่อยู่ในโลก หรือมีการงานมากมาย ให้จิตใจไม่รุ่มร้อน ไม่วุ่นวายได้ ฉะนั้นถ้าดูให้ดี โลกกับธรรมมันไม่แย้งจากกัน ยิ่งอยู่ในโลกยิ่งต้องมีธรรมะ ยิ่งทำงานเกี่ยวข้องกับผู้คน ยิ่งต้องอาศัยสติในการรักษาใจ
แต่จะว่าไปแล้วธรรมะมันไม่ใช่แค่ช่วยคนที่อยู่ในโลก หรือช่วยสนับสนุนชีวิตทางโลกเท่านั้น ชีวิตทางโลกหรือการทำงานทางโลก มันก็สามารถจะไปเอื้อเฟื้อธรรมะได้ด้วย เพราะว่าถ้าหากว่าเราทำงานเป็น การทำงานนั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรมไปด้วยในตัว
เราไม่ใช่เพียงแค่เอาธรรมะมาสนับสนุนการทำงานทางโลก แต่การทำงานทางโลกก็ยังเป็นการปฏิบัติธรรมไปด้วย การเอาธรรมะมากำกับการใช้ชีวิตทางโลก มันเป็นสิ่งจำเป็นฉันใด การเอางานทางโลกมาเป็นเครื่องสนับสนุนการปฏิบัติธรรม มันก็เป็นสิ่งที่ควรทำฉันนั้น ถ้าเราพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าธรรมมันสนับสนุนโลก แล้วโลกก็สนับสนุนธรรมด้วย
ถ้าหากว่าธรรมะหมายถึงการฝึกจิตหรือการทำจิต เราต้องอาศัยการทำจิตนั้นมาช่วยกำกับการทำกิจ ถ้าเราใช้การทำจิตเพื่อมากำกับการทำกิจ ชีวิตเราก็จะวุ่นวายน้อยลง และขณะเดียวกันถ้าเราเอาการทำกิจมาเป็นเครื่องสนับสนุนการทำจิต มันก็ยิ่งทำให้การปฏิบัติธรรมมันก้าวหน้า หมายความว่าเวลาเราทำงาน แม้จะเป็นงานทางโลก แต่มันก็เป็นการปฏิบัติธรรมไปด้วยในตัว เป็นการฝึกสติ เป็นการฝึกให้ลดละกิเลส ฝึกลดละความยึดมั่นในตัวตน
ฉะนั้นที่เข้าใจกันไปว่าอยู่ในโลกมันแยกขาดจากเรื่องทางธรรม มันเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ยิ่งอยู่ในโลกมากเท่าไร ยิ่งต้องอาศัยธรรมะเข้ามาช่วยเหลือเกื้อกูล ให้อยู่ในโลกนี้ได้อย่างสงบเย็น แล้วถ้าหากว่าเรารู้จักการทำจิตแล้ว
แม้กระทั่งอยู่กับผู้คน มีงานการมากมาย เราก็สามารถจะใช้การทำงาน การทำกิจ หรือการเกี่ยวข้องกับผู้คน ในการสนับสนุนการฝึกจิตของเราได้ ทำให้มีเมตตากรุณา ทำให้มีสติ มีความยึดมั่นถือมั่นน้อยลง มีความเห็นแก่ตัวน้อยลง และโลกกับธรรมถึงที่สุดแล้วมันก็ไม่แยกจากกัน ต้องเอาธรรมะมาใช้กับชีวิตทางโลกให้ได้มาก