มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ เราเคยรักษาอาการทางจิต เกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จนปลายปีหมอให้หยุดยาได้ และคิดว่าอาการดีขึ้นค่ะ แต่พักหลังมานี้ เรารู้สึกไม่มีความสุขเลย มีความเครียดความกดดันตลอดเวลาจนได้ไปพบหมออีกครั้ง หมอก็บอกว่าเป็นอาการของโรคแพนิค ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันดีขึ้น เพราะมันค่อนข้างส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต เราเก็บตัวมากขึ้น ไม่ออกไปหาสังคมข้างนอก และไม่ค่อยมีสมาธิ จุดเริ่มต้นมาจากเราเพิ่งจบใหม่เมื่อปี 61 แล้วเริ่มทำงานเลยทันที ครอบครัวเราแยกกันอยู่ พ่อแม่ก็ต้องเช่าห้องอยู่กันคนละที่เพราะไม่มีบ้าน ต่างคนก็ต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง น้องชายกลับไปเรียนที่ต่างจังหวัด ไปอาศัยอยู่กับป้า จนเราเริ่มเข้าทำงานเริ่มมีเงินเดือนก็ส่งให้พ่อ แม่ และป้า คนละ 500-1,000 บาททุกเดือน และแยกเป็นเงินเก็บส่วนตัวเดือนละ 4,000 บาท ในหลาย ๆ เดือนทางบ้านก็จะมาหยิบยืมหรือขอเพิ่ม ซึ่งเราก็ไม่กล้าปฏิเสธ จนต้องนำเงินเก็บตัวเองออกมา เป็นแบบนี้อยู่ประมาณเกือบครึ่งปีค่ะ เราเป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมายในอนาคตมาก ๆ เราจะตั้งใจไว้ตลอด ว่าเดือนนี้ต้องมีเงินเก็บเท่านี้นะ เดือนหน้าต้องมีเท่านี้ สิ้นปีต้องมีทั้งหมดเท่านี้ เราวางแผนซื้อบ้าน ก็จะโดนแม่ขัดไว้ แต่พ่อก็สนับสนุน เพราะพ่อจะมาอยู่กับเราด้วย หลาย ๆ อย่างในครอบครัวมักจะมีความเห็นของพ่อกับแม่ที่ไม่ตรงกัน และเราจะเป็นคนกลางในทุก ๆ เรื่อง คอยคิดว่าจะทำยังไงให้โอเคกันทุกฝ่าย รวมไปถึงกับแฟน เรามีแฟนที่มีฐานะค่อนข้างดี แต่นิสัยออกจะเป็นคนพูดแรง ๆ เขาจะไม่ค่อยโอเคกับเรื่องฐานะทางบ้านเราเท่าไร เขาบอกว่าเขาเครียด ที่เราไม่ได้รวย เวลาเราเจอปัญหาแล้วแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง ถ้าไปปรึกษาแฟน เขาก็จะหงุดหงิด แล้วดูถูกว่าโง่ เรื่องแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้ ทุกวันนี้เลยจมกับอารมณ์มากเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเราเองไม่เก่ง เราแย่ เราโง่ เราจน เราไม่สามารถจัดการเรื่องในครอบครัวได้เลย เราไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่จะเก็บเงินให้ได้ เราไม่สามารถทำให้คนรอบข้างพึงพอใจในตัวเราได้เลยค่ะ
- ปัญหาทางครอบครัวเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักจะเจออยู่เสมอ จึงเป็นธรรมดาที่เราก็สามารถพบเจอได้เช่นกัน
- การบริหารเงินเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้มีคนรอต่อคิวที่จะทำให้เงินเราหมดไป ไม่ว่าจะเป็นหนี้สิน และคนที่รอคอยเงินเราอยู่
- ทุกคนต้องมีกฎในการดำเนินชีวิต เราจะไม่เดินไปตามทางของสังคมว่าลูกทุกคนต้องกตัญญู หรือว่าลูกต้องหาเลี้ยงพ่อแม่ตลอดเวลา แต่ให้ใช้ปัญญาในการขบคิดด้วยเสมอ
- หากเราไม่มีเงินพอที่จะช่วยเหลือได้ ก็จำเป็นต้องเจรจากับคนในครอบครัว ตกลงในเรื่องค่าใช้จ่ายว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบตรงนี้ ความฝันของทุกคนย่อมมีอยู่แล้วเป็นธรรมดา
- การเสียสละเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่หากว่าเราเสียสละจนไม่มีพื้นที่ให้ตัวเองยืน ก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ โรคซึมเศร้าแก้ได้ด้วยสติเท่านั้น ให้มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราสามารถทำได้ ถ้าเราต้องการที่จะทำ
Create your
podcast in
minutes
It is Free