6 ก.พ. 64 - เขย่าใจให้เห็นธรรม : คนเราไม่ต้องรอให้อาจารย์ที่เป็นหลวงพ่อหลวงตามาสอนเรา หรือมาสอนให้เราเห็นความจริงรู้จักตนเอง คนอื่นก็สามารถเป็นอาจารย์ให้กับเราได้ อาจจะเป็นเด็ก แม่บ้าน คนรอบตัว หรือคนที่ไม่กินเส้นกับเรา คนเหล่านี้ก็เป็นอาจารย์ได้ ถ้าหากว่าสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่มากระทบกระแทกให้เราเห็นทุกข์ แล้วเราก็ได้เรียนรู้จากทุกข์ ทุกข์ก็มีประโยชน์ ความผิดหวังมันก็มีคุณค่า และทุกคนก็เป็นอาจารย์ของเราได้
อย่าว่าแต่คน สัตว์ก็เป็นอาจารย์เราได้ ไม่ได้เป็นอาจารย์ในแง่แบบอย่างสิ่งที่ควรทำ แต่เป็นอาจารย์ในแง่สร้างสถานการณ์ หรือพูดหรือทำ เขย่าใจของเรา เขย่าความรู้สึกของเรา ทีแรกเขย่าแล้วเกิดทุกข์ แต่ว่าจากทุกข์ที่ทำให้เราเห็นความจริง เห็นสัจธรรม เห็นความจริง เพราะฉะนั้น ถ้าใครมาทำให้เราเกิดทุกข์ ให้มองว่านี่เขากำลังมาสอนเราให้เห็นความจริงว่าไม่มีอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้ สอนให้เราเห็นโทษของการยึดติด เป็นเพราะความคาดหวัง ความยึดติด ทำให้เราผิดหวังเป็นทุกข์ หรือสอนให้เราอดทน ฝึกให้เราเข้มแข้ง ให้รู้จักปล่อยรู้จักวาง ถ้าเรามองคนเหล่านั้นว่าเป็นอาจารย์ หรือมองว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเรามันมาเป็นแบบฝึกหัดสอนเรา ก็ถือว่าเราเป็นนักปฏิบัติธรรมที่แท้จริง เพราะเป็นผู้ใฝ่รู้ ทำให้เกิดปัญญา
ถึงที่สุดแล้วอย่าว่าแต่คนเลย อารมณ์ที่เกิดขึ้น ความโกรธ ความเกลียด ความเศร้า ความขุ่นมัว พวกนี้ก็เป็นอาจารย์ให้กับเราได้ เพราะเขาสามารถมาสอน ทำให้เราเห็นความจริง เห็นสัจธรรมของอารมณ์ ของสิ่งที่เป็นนามว่ามันก็ไม่เที่ยง ความโกรธ ความเศร้าก็ไม่แน่นอน จะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ ควบคุมบังคับไม่ได้ แต่มันก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน อารมณ์พวกนี้ที่เกิดขึ้นกับใจ ก็มาสอนให้เราเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้ว่าอารมณ์บางอย่างทำให้เรารุ่มร้อน อารมณ์บางเหมือนมากรีดแทงใจ แต่ถ้าเราเห็นมัน ไม่ยึดมัน ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ก็เห็นสัจธรรมที่มันกำลังแสดงให้เราเห็น ก็สมควรเรียกอารมณ์พวกนี้ว่าอาจารย์ได้เหมือนกัน